แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี
เรื่อง  ขอประณามกรณีสังหารเด็กผู้บริสุทธิ์ในจังหวัดนราธิวาส

 


------------------

 


         สำนักจุฬาราชมนตรีมีความห่วงใยเป็นอย่างยิ่งกับสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรุนแรงที่ได้ปะทุขึ้นอีกครั้งในช่วงระยะเวลา ๑๐ ปีที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตร่วม ๖,๐๐๐ คน บาดเจ็บนับ ๑๐,๐๐๐ คน และมีสมาชิกในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากความสูญเสียเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นพี่น้องไทยพุทธและมุสลิม

 

         กรณีล่าสุดจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ ๑๔๓/๔ บ้านปะลุกาแปเราะ หมู่ที่ ๗ ตำปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิงราษฎร เสียชีวิต ๓ ราย ซึ่งเป็นเด็กทั้งหมด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน ๒ ราย หลังจากที่ทั้งหมดเดินทางกลับจากการละหมาดในมัสยิดประจำหมู่บ้าน

 

         สำนักจุฬาราชมนตรีขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวและญาติมิตรของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าความตายตามหลักการศรัทธาในศาสนาอิสลามนั้นไม่ใช่การดับสูญหรือสิ้นสลายไป หากเป็นเพียงการกลับคืนสู่อัลลอฮ์พระผู้เป็นเจ้าตามอายุขัยที่พระองค์ได้ทรงกำหนด แต่อย่างไรก็ตาม ศาสนาอิสลามมองชีวิตมนุษย์ทุกคนว่าเป็นสิ่งสูงค่าและมีเกียรติศักดิ์ศรี อันเป็นสิ่งสรรสร้างอันงดงามจากพระผู้เป็นเจ้าเพื่อเป็นตัวแทนของพระองค์บนโลกนี้ ดังที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ในคัมภีร์อัล-กุรอ่านว่า   “โดยแน่นอน เราได้บังเกิดมนุษย์มาในรูปลักษณ์ที่สวยงามยิ่ง”
(อัล-กุรอ่าน ๙๕ : ๔) และ “แท้จริง ผู้ใดฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ชีวิตหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล และหากผู้ใดช่วยรักษาชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้รักษาชีวิตมนุษย์ทั้งมวล”  
(อัล-กุรอ่าน 
๕ : ๓๒) หรือแม้แต่ในยามศึกสงครามซึ่งศาสนาอิสลามอนุมัติให้มีการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเองได้ แต่ก็ยังได้บัญญัติถึงหลักจริยธรรมในการทำสงครามโดยห้ามทำร้ายเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ผู้บาดเจ็บ และผู้ครองตนเป็นนักบวชในศาสนาอื่น ๆ รวมถึงการห้ามเผาทำลายต้นไม้และศาสนสถานของทุกศาสนา

 

        ดังนั้น สำนักจุฬาราชมนตรีจึงขอประณามการสังหารชีวิตคนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสังหารเด็กผู้บริสุทธิ์ทั้งสามในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้มนุษย์ทุกหมู่เหล่าที่กำลังอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง จงยึดหลักธรรมคำสอนของศาสนาที่จะไม่ทำลายและละเมิดชีวิตของเพื่อนมนุษย์
ด้วยสาเหตุเพียงเพราะการมีอุดมการณ์ความเชื่อที่ต่างกัน

 

         ในท้ายที่สุดนี้ สำนักจุฬาราชมนตรีขอเรียกร้องให้ทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้รีบดำเนินการเยียวยาแก่ญาติผู้เสียชีวิตโดยเร่งด่วน ควบคู่กับการเร่งสอบสวนโดยกระบวนการยุติธรรมเพื่อนำผู้สังหารชีวิตเด็กผู้บริสุทธิ์ทั้งสามในครั้งนี้มาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

สำนักจุฬาราชมนตรี

๕  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๗